My Community

ธุรกิจและบริการ => บทความ => ข้อความที่เริ่มโดย: admin ที่ พฤษภาคม 15, 2020, 09:42:18 AM

หัวข้อ: 12 เรื่องราวที่เป็นปริศนา และวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถอธิบายได้
เริ่มหัวข้อโดย: admin ที่ พฤษภาคม 15, 2020, 09:42:18 AM

ยังมีเรื่องราวลึกลับอีกมากมาย นับตั้งแต่ครั้งอดีตกาลที่ ที่นักวิทยาศาสตร์พยายามจะไขปริศนา แต่ทว่าการไขปริศนานั้นไม่ใช่เรื่องง่าน และก็ยังไม่มีใครที่สามารถหาข้อสรุปที่ชัดเจน 100% ได้ มีเพียงแต่สมมุติฐานมากมายที่พยายามจะอธิบายสิ่งเหล่านั้น และวันนี้เราจะขอพาทุกท่านมาชมสิ่งที่ยังเป็นปริศนาที่ยังคงรอการพิสูจน์จนถึงปัจจุบันนี้
 

1. ถนนบิมินี
(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-01.jpg)

 

ในช่วงทศวรรษที่ 1930 เอ็ดการ์ เคย์ซี นักพลังจิตชาวอเมริกันอ้างว่า ในปี 1968 หรือ 1969 ซากปรักหักพังของอาณาจักรที่สาบสูญอย่างแอตแลนติส จะถูกค้นพบในย่านบิมินี ทางตะวันตกของเกาะบาฮามาส

(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-02.jpg)
 

หลังจากนั้นเกือบ 40 ปี ในเดือนกันยายนปี 1968 บล็อกหินปูนปริศนาที่มีความยาว 700 เมตร ถูกพบบริเวณใกล้กับ Paradise Point ทางตอนเหนือของบิมินี ลักษณะของบล็อกหินปูนรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสและสี่เหลี่ยมผืนผ้าก่อตัวเรียงรายกันยาวจนถูกตั้งชื่อว่า ถนนบิมินี (Bimini Road) บางคนคิดว่ามันเป็นซากที่หลงเหลือของอารยธรรมเก่าแก่ที่มนุษย์ไม่รู้จัก แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนว่ามันมาจากไหนหรือเกิดขึ้นได้อย่างไร

(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-03.jpg)
 

2. โรคระบาดเต้นรำจนตาย

(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-04.jpg)
 

ในเดือนกรกฎาคม 1518 ณ เมืองสตราสบูร์ก แคว้นอาลซัส ส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน จู่ๆ นางโทรฟเฟียได้ออกมาเต้นรำอย่างเร่าร้อนกลางท้องถนนและเธอเองก็ไม่หยุดเต้น จนกระทั่งมีคนอื่นๆ เข้ามาร่วมเต้นกับเธอ 34 คนภายในหนึ่งสัปดาห์ และหลังจากผ่านไป 1 เดือน ตัวเลขของผู้ที่มาเต้นกับเธอก็เพิ่มขึ้นมากถึง 400 คน ทุกคนเต้นติดต่อกันโดยไม่มีหยุดพัก จนกระทั่งหลายๆ คนเริ่มเหนื่อย อ่อนล้า และตายไปจากสาเหตุหัวใจวายและสมองขาดเลือด

(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-05.jpg)
 

ปรากฏการณ์ประหลาดนี้ยังไม่มีคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้อย่างชัดเจน เอกสารทางประวัติศาสตร์และบันทึกแพทย์ในสมัยนั้นระบุได้แค่ว่า ทุกคนที่ตายได้ออกมาเต้นรำจริงแต่ไม่ทราบสาเหตุของการออกมาเต้นรำจนเสียชีวิต
 

3. แอนดรูว์ คาร์ลสซิน


 (https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-06.jpg)

ในปี 2003 เจ้าหน้าที่ FBI ได้จับกุมชายวัย 44 ปีคนหนึ่งที่ทำเงินได้จากตลาดหลักทรัพย์มากผิดปกติ โดยเขาใช้เงินเพียงแค่ 800 เหรียญ (26,000 บาท) เล่นหุ้นได้เงินเพิ่มขึ้นเป็น 350 ล้านเหรียญ (11,500 ล้านบาท) โดยผ่านการซื้อขายที่มีความเสี่ยงถึง 126 ครั้ง และนั่นทำให้เขาต้องถูกจับไปสอบสวนในที่สุด


 (https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-07.jpg)

หลังจากที่แอนดรูว์ถูกจับ เขาอ้างว่าได้รับข้อมูลเหล่านี้มาจากอนาคต ซึ่งตัวเขาเองบอกว่า ตัวเองเดินทางมาจากอนาคตในปี ค.ศ. 2256 ด้วยเครื่องไทม์แมชชีน หลังจากนั้นแอนดรูว์ได้รับการประกันตัวโดย “ชายลึกลับ” ด้วยเงินมากถึง 1 ล้านหรียญ (33 ล้านบาท) ก่อนที่เขาจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยก่อนวันนัดศาลเพื่อขึ้นพิจารณาคดีเพียงไม่นาน
 

4. แม่น้ำเดือด

(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-08.jpg)
 

อันเดรส รูโซ เด็กชายที่ได้ยินเรื่องราวจากปู่ของเขาเกี่ยวกับตำนานแม่น้ำที่เดือดปุดๆ อยู่ตลอดเวลา และเขาก็ฝันว่าจะได้พบแม่น้ำแห่งนี้เข้าสักวัน


 (https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-09.jpg)

จนกระทั่งปี 2011 เด็กชายอันเดรสได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นนักธรณีวิทยาของเนชันแนล จีโอกราฟฟิก และได้มีโอกาสให้หมอผีท้องถิ่นคนหนึ่ง เป็นไกด์นำทางเขาเข้าไปยังแม่น้ำลึกลับแห่งหนึ่งในป่าอเมซอน และสิ่งที่ทำให้อันเดรสประหลาดใจอย่างมากก็คืออุณหภูมิของน้ำในแม่น้ำแห่งนี้สูงถึง 86 องศาเซลเซียส ซึ่งข้อสันนิษฐานเดียวที่ทำให้อุณหภูมิของน้ำสูงขนาดนี้คือ ภูเขาไฟที่ตั้งอยู่ห่างไปไกลถึง 700 กิโลเมตร
 

5. มหาวิหารใต้น้ำโยนากุนิ

(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-10.jpg)
 

มหาวิหารลึกลับที่มีลักษณะคล้ายพีระมิดแห่งนี้ถูกกลุ่มนักประดาน้ำพบอยู่ใกล้กับเกาะโยนากุนิ ประเทศญี่ปุ่น ในปี 1986 โดยมันเป็นวิหารขนาดใหญ่ที่มีถึง 5 ชั้น และนั่นจึงต้นเหตุของคำถามที่เกิดขึ้นมากมาย เริ่มตั้งแต่อารยธรรมโบราณที่คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายยุคน้ำแข็งหรือช่วง 20,000 ปีก่อนแห่งนี้ เป็นผลงานของอารยธรรมใดกันแน่ ทั้งๆ ที่ในยุคดังกล่าวอารยธรรมของมนุษย์ที่เรารู้จัก ยังไม่ก่อกำเนิดขึ้นมาด้วยซ้ำ

(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-11.jpg)
 

ส่วนอารยธรรมมนุษย์ที่ถูกยอมรับเกิดขึ้นมาแค่เพียง 6 พันปีก่อนเท่านั้น ในขณะที่วิหารแห่งนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับอนุเสาวรีย์ต่างๆ ในอเมริกากลางและใต้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น แอสเท็ค อินคา มายา นาสกา และถึงแม้จะมีทฤษฎีที่ว่ามันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ก็ยังไม่ได้รับการยอมรับแต่อย่างใด
 

6. ภาพถ่ายจากพิพิธภัณฑ์ Bralorne


 (https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-12.jpg)

ภาพถ่ายที่โด่งดังภาพนี้ถูกถ่ายขึ้นที่งานเปิดตัวสะพาน Gold Bridge ในประเทศแคนาดาในปี 1941 โดยแสดงให้เห็นผู้คนจำนวนมากที่กำลังยืนมุงอยู่ แต่ก็มีคนตาดีที่สังเกตุว่า มีชายในภาพถ่ายคนหนึ่งที่ดูแตกต่างจากผู้คนในภาพ เพราะตัวเขาเองแต่งตัวแตกต่างจากแฟชั่นในยุค 1940 อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืดคอกลม ที่ถูกสวมทับด้วยเสื้อฮูดที่มีซิป แว่นดำรูปทรงแปลกๆ และกล้องถ่ายรูปที่ดูแตกต่างจากคนอื่นๆ จนกระทั่งบางคนเชื่อว่า เขาคือชายที่มาจากโลกอนาคต
 

7. รอยปริศนาในป่าอเมซอน

(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-26.jpg)
 

หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้ทำการศึกษาพื้่นที่ในเขตป่าอเมซอน พวกเขาก็ได้พบกับร่องรอยประหลาดที่เกิดขึ้นบนพื้นหญ้ามากมาย หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมและพบว่า มีร่องรอยเหล่านี้มากถึง 450 แห่งทางตอนเหนือของประเทศบราซิลและโบลิเวีย โดยร่องรอยโบราณที่เก่าแก่ที่สุดมีอายุมากถึง 3,000-3,500 ปี

(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-25.jpg)
 

ยังไม่มีข้อสรุปว่าร่องรอยเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ทฤษฎีที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือร่องรอยเหล่านี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรม หรืออาจเป็นที่พบปะชุมนุมกันของชนเผ่าในพื้นที่มาตั้งแต่ยุคโบราณ
 

8. แสงลึกลับจากแผ่นดินไหว

(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-16.jpg)
 

แสงที่เกิดจากแผ่นดินไหวถือเป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่ลึกลับที่สุดอย่างหนึ่ง โดยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1600 ได้มีบันทึกที่พิสูจน์ได้มากถึง 65 ครั้ง เกี่ยวกับแสงบนท้องฟ้าที่เกิดขึ้นในระหว่างเกิดแผ่นดินไหว อย่างไรก็ตาม โอกาสที่คุณจะเห็นแสงจากแผ่นดินไหวนั้นมีน้อยกว่า 0.5% จากแผ่นดินไหวทั้งหมด


 

มีทฤษฎีมากมายที่พยายามจะอธิบายถึงสาเหตุของการเกิดแสงลึกลับเหล่านี้ แต่จนแล้วจนรอด นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่รู้สึกว่ามันใกล้เคียงกับความจริงแม้แต่น้อย
 

9. หญิงที่ถูกแช่แข็ง

(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-17.jpg)
 

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 1980 จีน ฮิลเลียด กำลังขับรถไปที่บ้านของพ่อแม่เธอผ่านเส้นทางที่หิมะตกหนักในเขต Leangby รัฐมินนิโซตา จนกระทั่งรถของเธอไม่สามารถแล่นต่อไปได้ เธอตัดสินใจลงเดินไปยังบ้านเพื่อนของเธอที่ใกล้ที่สุด แต่โชคร้ายที่เธอเกิดหมดสติเนื่องจากอุณหภูมิที่เย็นจัด และนอนหลับไหลอยู่บนหิมะนานถึง 6 ชั่วโมง ภายใต้อุณหภูมิ -22 องศาเซลเซียส ก่อนที่เธอจะถูกพบ

(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-18.jpg)
 

หลงจากที่จีนถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ไม่มีสัญญาณชีพจรใดๆ ผิวของเธอแข็งมากจนไม่สามารถฉีดยาใดๆ เข้าไปได้ แพทย์ทุกคนมั่นใจว่าเธอเสียชีวิตแล้วแน่นอน แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นเพราะหลังจากที่น้ำแข็งเริ่มละลาย จีนเริ่มขยับได้เล็กน้อย และหลังจากนั้น 3 วัน เธอเริ่มขยับขาของเธอได้ และใน 6 สัปดาห์เธอก็กลับมามีสภาพปกติอีกครั้ง
 

10. เรือผีสิง Carroll A. Deering


 (https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-19.jpg)

Carroll A. Deering เรือใบพาณิชย์อเมริกัน คือหนึ่งในเรือที่กลายเป็นเรือผีสิงที่โด่งดังที่สุด โดยมันถูกพบว่าลอยอยู่กลางทะเลในปี 1921 โดยที่ไม่มีลูกเรือแม้แต่คนเดียวบนเรือลำนี้ ในขณะอาหารบนเรือยังคงอยู่ในสภาพปกติ ข้าวของส่วนตัวของทุกคนยังอยู่เหมือนเดิม แต่สมอของเรือทั้ง 2 ข้างกลับหายไปพร้อมเรือกู้ชีพอีก 2 ลำ ทว่าทำไม จู่ๆ ทุกคนถึงหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หรือมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างที่ต้องสละเรือด่วน


 (https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-20.jpg)

จนกระทั่งปัจจุบันก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรือ Carroll A. Deering และลูกเรือทั้ง 11 คน การเผชิญกับพายุกลางทะเลก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะเรือที่ยังอยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ อีกทั้งการหนีลงเรือเล็กท่ามกลางพายุนั้นเป็นเรื่องไม่ฉลาดเท่าไรนัก และในบริเวณจุดที่เกิดเหตุ ก็คือบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าที่โด่งดัง จนกระทั่งภายหลังปรากฏว่ามีเรือลำอื่นอีกอย่างน้อย 9 ลำสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอยในช่วงเวลาเดียวกันที่บริเวณนี้อีกด้วย
 

11. มนุษย์ฝน

(https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-21.jpg)
 

เมื่อคุณปู่ของ ดอน เด็คเกอร์ ได้เสียชีวิตลงในปี 1983 ณ เมือง สตรัดสบรูก รัฐเพนซิลวาเนีย หลังงานศพ เด็กหนุ่มเริ่มรู้สึกไม่สบายและเกิดอาการมึนงง และในเวลานั้นเอง น้ำก็เริ่มหยดลงมาจากเพดานและกำแพงในห้องนั่งเล่น ทั้งๆ ที่ไม่มีท่อน้ำอยู่บริเวณจุดที่น้ำหยดแม้แต่น้อย และเหตุการณ์ครั้งนั้นก็ทำให้ทุกคนมึนงงอย่างมาก


 

หลังจากนั้นทุกคนก็เริ่มเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งพยายามพาเขาออกไปนอกบ้านไปอยู่ที่ร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ น้ำก็เริ่มหยดลงมาจากเพดานร้านพิซซ่า และเมื่อตำรวจพาตัวเขาออกไปจากร้าน น้ำก็เริ่มหยุดหายไป ซึ่งปรากฏการ์ประหลาดนี้ได้ถูกเผยแพร่ในนิตยสาร Unsolved Mysteries เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ปี 1993
 

12. มหาสมุทรใต้โลก


 (https://khaosara.com/wp-content/uploads/-000//1/myth-things-23.jpg)

นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบแหล่งน้ำขนาดใหญ่ใต้พื้นผิวโลกที่ลึกลงไปกว่า 660 กิโลเมตร โดยมันมีอายุกว่า 2.7 พันล้านปี และที่น่าตื่นตะลึงก็คือ มันมีขนาดที่ใหญ่กว่ามหาสมุทรบนโลกหลายเท่านัก ซึ่งการค้นพบนี้อาจเปลี่ยนทฤษฎีการกำเนิดมหาสมุทรบนพื้นผิวโลก ที่อาจเกิดจากการระเบิดของมหาสมุทรใต้โลกก็เป็นได้
 
ขอบคุณบทความดีๆจาก  https://www.khaosara.com/